สุดท้ายก็มา LandRover เปิดตัว Classic Defender V8 เอาใจสาวกผู้ดี

     อดรนทนไม่ไหวLandRoverอาจจะ Classic Defender V8 110 แบบช่วงยาวที่เคยขายมาในปี 1983-2016 แล้วพร้อมขายชิปเซ็ตใหม่แทน
แต่สุดท้ายได้นำมาเปิดตัวที่งาน Goodwood Revival 2024 ในวันนี้และพบกับโลหะในวันที่ 6 กันยายน พร้อมประกาศราคาจำหน่ายแบบ 5 คืนนี้จะเริ่มต้นที่ 199,000 อิตาลีและรุ่น 7 เริ่มต้นที่ 204,000 สุดท้าย
Classic Defender V8 ทุกคันตลอดทั้งไฟหน้า LED เป็นพิเศษเป็นมาตรฐานโดยอาศัยไฟคู่หน้าแบบ Heritage Lighting Pack หรือ Crystal Lighting Pack ในส่วนของระบบควบคุมและฟังก์ชันการทำงานของการทำงาน
มีล้อรีวิวขนาด 16 หรือ 18 ที่ยังคงให้การควบคุมเช่นบันไดข้างบันไดและไฟมังสวิรัติ LED ของ Land Rover ข้อเสนอแนะบริการพ่นสีตามตัวอย่างที่เพียงพอมีสีรถให้สีที่สามารถใช้ได้ 4 สีที่พบบ่อย เฮอริเทจ, ร่วมสมัย, พรีเมียม และ SV Metallic
รถทุกคันสามารถพ่นสีได้ทั่วไปและสีได้แบบ Balmoral Green และ Marine Blue โดยตรงจะเป็นสีใหม่ให้เลือก Corinthian Bronze และ Firenze Red สีหลังคาสีได้ไม่นานหรือสีตัดกันก็ได้
ส่วนนั้นยังคงรักษาต่อไป Defender แบบที่คุณจะสังเกตเห็นเพิ่มเติมเพื่อให้เรียกร้องให้ลูกค้ามีคันเกียร์และหัวเกียร์ส่วนใหญ่จับที่ควบคุมมือหุ้มหนังคุณภาพดีแบบเดียวกับหนังคุณภาพสูงที่ใช้หุ้มเบาะนั่ง เพดานที่นั่งซับในหลังคาและแผงเบิ้ลสีภายในได้จะแบบทูโทนหรือแบบโทนเดียวและสีจะสามารถเลือกได้ขาวหรือโทนดำดุ
ส่วนที่นั่งเองยังให้แบบพรีเมียมจากค่าย Recaro มาให้เลือกระบบระบบอินโฟเทนเมนต์ Land Rover Classic รองรับขนาด 3.5 นิ้วรองรับหน้าจอเล็กๆเหมือนเดิมแต่ก็มีระบบรองรับด้วยคุณสมบัติต่างๆ ของวิทยุ DAB และนั่นก็คือ carplay นั่นเอง
Classic Defender V8 อธิบายการคืนค่าและการอ้างอิงโดยอิงจากรถยนต์จำนวนมากระหว่างปี 2012 ถึง 2016 ภายใน V8 ขนาด 5.0 ลิตรรหัส AJ ตำรา NA ไร้ระบบอัดอากาศแต่สร้างพละกำลังถึง 405 ส่วนเริ่มต้นวิจารณ์ 515 นิวตันเมตรคอยควบคุมเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 ประสิทธิภาพการทำงานใหม่มีต่อเนื่องได้ต่อเนื่อง!
ช่วงล่างติดตั้งโช้คอัพ Bilstein อุปกรณ์เสริม Eibach และเหล็กกันโคลงที่ Defender ในโค้งที่ยอดเยี่ยมระบบควบคุมให้ระบบเบรค Alcon สี่สูบเพื่อหยุดรถที่นี่
สุดท้ายตัวรถเกิดจาก Land Rover Classic และรถทุกคันเป็นหลักพื้นฐานจาก Defender 2012 – 2016 สามารถตรวจสอบจำนวนว่าผลิตจำกัดหรือแล้วแต่ลูกค้าจะสั่งจองทุกคนยังสนใจก็รีบติดต่อสั่งจองกันนะครับไม่เพิ่มเติม หรือไม่ก็หมดก่อนความหมาย

กลับมาอีกครั้ง Toyota Majesty รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2567

รถตู้พรีเมี่ยม “ Toyota Majesty ” รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2567 ดีไซน์ภายนอกโครเมียม

“ความสง่างามของทุกตอน”

“ยนตรกรรมที่มอบความหรูหราที่สามารถตอบสนองการใช้ชีวิต”

มาพร้อมกับความสะดวกสบายในการขับขี่แบบ Captain Seat พร้อมระบบบริหารหลังปรับไฟฟ้าในรุ่น Grande และเบาะฟังพร้อมพนักพิงศีรษะแบบ Butterfly Headrest โอบกระชับเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายของระบบควบคุมภายในห้องโดยสารระบบ nanoe

คุณสมบัติความบันเทิงในนิ้วด้วยขนาด 8 รองรับ Apple CarPlay Wireless และ Android Auto ระบบระบบนำทาง Navigator T-Connect เซิร์ฟเวอร์มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลของรถโตโยต้าอย่าง Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนที่จะตรวจสอบ

สำหรับระบบช่วงล่างซับช่วยแรงและนุ่มสบายใน GD 2.8 ที่มาตรฐานยูโร 5 รองรับน้ำมัน B20 การทำงานของดีเซลกับเกียร์อัตโนมัติ 6 ในส่วนลึกมีสูง ตอบโจทย์การใช้งานไลฟ์สไตล์

 

สามารถใช้ทั้งหมด 2 รุ่นย่อย

  • แกรนด์ 2,329,000 บาท
  • เบี้ยประกันภัย 1,989,000 บาท

มีให้เลือก  2 สีเช่นกัน

  • สีขาวมุก – White Pearl (ภายในสี Black)
  • สีดำ –  Black Mica (ภายในสี Black และ Beige)

* ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน

*สีขาวมุก ราคาเพิ่ม 15,000 บาท

 

ขนาดมิติของรถ

ตัวรถ 5,300 มม. x 1,970 มม. x 1,990 มม. (ยาวxกว้างxสูง)

ฐานล้อ 3,210 มม.

สเปกตรัม 5.5 ม

 

ตอนแห่งความพิเศษ

ภาพลักษณ์ที่เรียบหรู สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จ…

  • กระจังหน้าสแตนเลสสตีลดีไซน์
  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • มองข้างพร้อมสัญญาณไฟสัญญาณ
  • ล้ออัลลอย 17 นิ้ว
  • เบาะหลังสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้มากขึ้น
  • บานสไลด์อัตโนมัติ 2 พร้อมระบบที่สามารถหนีบได้

ตอนแห่งความรู้สึก

ความรู้สึกพิเศษที่ให้ความรู้สึกประทับใจ…

  • จอสัมผัสขนาด 8 นิ้วรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • พวงมาลัยลายไม้พร้อมทั้ง 4 ทิศทาง
  • เรืองแสงแบบ Optitron พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID
  • เสายึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก 4 ตำแหน่ง
  • แบบ Captain Seat โดยตรงแถวที่ 1 และ 2 พร้อมด้วยรองขาและหัวหมอนแบบ Butterfly
  • ระบบจะช่วยให้ความเย็นสบายภายในระบบกรองอากาศ nanoe
  • ที่วางแก้วน้ำและช่องจ่ายอัตโนมัติ 12 พร้อมช่องต่อเดสก์ท็อป USB-C 6 ตำแหน่งและ USB-A 1 ตำแหน่ง
  • ม่านบังแดดและไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
  • เพิ่มเติมแบบปรับลดแสงสะท้อน
  • ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร

การแจ้งเตือน (สำหรับรุ่น  Grande)

  • ระบบระบบ Navigator
  • ระบบบริหารหลังไฟฟ้าแถวที่ 1

ตอนของความปลอดภัย

ความปลอดภัยแห่งความปลอดภัยให้การเดินทางอุ่นใจ…

  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย (SRS Airbags)
  • ระบบเบรก ABS และ EBD
  • ระบบควบคุมทรงตัว (VSC)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางอาหาร (HAC)
  • ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
  • ระบบช่วยเตือนมุมสายตาสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM)
  • ระบบช่วยในขณะที่เตือนรถ (RCTA)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
  • กล้องมองหลัง (กล้องหลัง)
  • มองรอบคัน (PVM)
  • กล้องวีดิโอบันทึกภาพติดรถยนต์ (DVR)
  • ระบบแจ้งเตือนลมยาง (TPMS)
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISO-FIX & Top Tether)
  • ไฟในเวลากลางวัน (ไฟวิ่งกลางวัน)
  • ความชื้นหน้า
  • ไฟเบรกดวงที่สามระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเพื่อตรวจสอบเบรก (ESS)

TOYOTA SAFETY SENSE (สำหรับรุ่น Grande)

  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
  • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)
  • ระบบควบคุมไฟอัตโนมัติ (ไฟสูงอัตโนมัติ)

ตอนของการแสดง

การควบคุมแห่งการควบคุมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการปฏิวัติ…

  • ควบคุม  GD 2.8 ลิตร… ขุมพลังระบบควบคุมและประหยัดน้ำมัน

–  กินสูงสุด 120 กิโลวัตต์ (163 นาที) ที่ 3,600 รอบ/นาที

          – แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,200 รอบ/นาที

  • เกียร์  6 ระบบอัตโนมัติมีการอัพเดตอย่างเป็นระบบ
  • ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท
  • ช่วงล่างแบบโฟร์คอยล์สปริง
  • สิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานที่มาตรฐานยูโร  5

ตอนของประสบการณ์ใหม่

ส่งของประสบการณ์รูปแบบใหม่กับบริการผ่านแอปพลิเคชัน  T-CONNECT …  (สำหรับรุ่น  Grande)

ด้วย 3 คุณสมบัติหลักตอบโจทย์ทุกการเดินทาง

1. บริการเพื่อความปลอดภัยไร้ความกังวล

    • บริการ  Find My Car  เช็กตำแหน่งรถแบบ Real Time
    • บริการติดตามรถหาย ( TheftTrack)  ประสานการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยวรตจสอบตำหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม
    • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ( SOS)
    • บริการกำหนดขอบเขตความปลอดภัย ( Geo-Fencing) แจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนจากจุดมืดหรือขอบเขตที่คุณกำหนดไว้

2. บริการช่วยให้การดูแลรถยนต์เป็นเรื่องง่าย

    • บริการแจ้งเตือน ( Maintenance Reminder )ติดตามศูนย์ออนไลน์
    • ให้บริการข้อมูลรถและการขับขี่ ( Vehicle Information แสดงสถานะข้อมูลรถยนต์ เช่น เลขไมล์ ระดับน้ำมันคงเหลือ และสรุปทริปการเดินทาง
    • สถานะงานซ่อมและประวัติงานซ่อม ( Service Status & History) เช็กประวัติงานซ่อมย้อนหลัง

3. บริการเติมเต็มความสุขตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์

  • บริการผู้ช่วยส่วนตัว ( Concierge Services ) บริการโทรสอบถามเส้นทางจองร้านอาหารในปัจจุบัน
  • TOYOTA ALIVE-X   ดาวน์โหลดสะสมคะแนน The 1 ใช้แลกเป็นส่วนลดในการเข้าเยี่ยมชมศูนย์โตโยต้าและร้านค้าในเซ็นทรัล

* ให้บริการของ T-Connect เป็นหลักรถยนต์แต่ละรุ่นของธุรกิจรายละเอียได้ที่โบรชัวร์หรือสอบถามที่ปรึกษาการขาย

GWM โชว์รถใหม่พร้อมนวตกรรมรักษ์โลกในงาน Beijing Auto Show 2024 ประเทศจีน

GWM หรือเกรท วอลล์รุ่นล่าสุดของบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) เปิดเผยความสำเร็จของแบรนด์พร้อมประกาศแนวทางที่สะท้อนถึงการตอบสนองต่อในไดรฟ์อย่าง ยืนหยัดบนแนวคิดในการขับเคลื่อนยานยนต์บนพื้นโลกที่ไร้ร่องรอย (โลกาภิวัตน์เชิงนิเวศ)
เจาะลึกทั้งการวิจัยเพื่อการผลิตและด้านการขาย พร้อมเปิดตัวรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่เต็มไปพร้อมกัน ไฮไลท์สุดพิเศษ 4 รุ่น GWM TANK 700 Hi4-T พบกับออฟโรดพรีเมี่ยมรุ่น ไดรฟ์และ GWW SAHAR POER Hi4-T รถกระบะออฟโรดขุมพลังประสิทธิภาพสูงคันแรกของโลกเสริมทัพด้วย GWM HAVAL H6 4th Generation แคคอมแพคเอสยูวีขวัญชาวใจโลกในโฉมใหม่การันตีด้วย ยอดขายที่ติดอันดับทั่วโลกอยู่ที่ 10 ในช่วงที่รถยนต์คอมเอสยูวีเพิ่มขึ้นอีก 5 ปีซ้อน
และ GWM WEY 80 ที่สุดของรถสำหรับทุกคนในครอบครัว มาพร้อมกับฟังก์ชั่นและความหรูหราแบบที่รองรับที่งานออโต้โชว์ ครั้งที่ 18 ประเดิมด้วย GWM TANK 700 Hi4-Tรถออฟโรดพรีเมี่ยมที่ต่อเนื่อง ส่วนอันหรูหราและเหนือระดับได้ในส่วน GWM SAHAR POER Hi4-T กับคำนิยาม “รถกระบะออฟโรดขุมพลังไฮบริดที่ความถี่ของคันแรกของโลกที่ต้องใช้ GWM Hi4 -T Off-road Super Hybrid Architecture ที่ลาดเกรท วอลล์ไฮบริดกับรถยนต์แบรนด์หรูที่ระดับราคา 8 แสนหยวน (ประมาณ 4 มิลลิลิตร)
ต่อด้วยรถยนต์ตามลำดับอันดับยอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 10 ที่โดดเด่นในกลุ่มรถยนต์คอมพิวเอสเพิ่มเติม 5 ปีซ้อนและยังคงรักษาความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 9 ปีที่จะได้รับรางวัล ไดรฟ์และกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้ามากกว่า 4 ทั่วประเทศอย่าง GWM HAVAL H6 ให้คุณควบคุมเอสยูวีได้เป็นครั้งแรกในสถานการณ์ที่หลากหลายและนำเสนอประสบการณ์ครบวงจรไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นใหม่ได้ ใน GWM HAVAL H6 ในเจนเนอเรชัน 4 ชิ้นแรกส่วนใหญ่เปลี่ยนโฉมใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Star River Aesthetics” หรือความพลิ้วไหวของสายน้ำและวัยรุ่น แต่ยังคงนำความโดดเด่นของรถยนต์ในเจนเนอเร่ ชันที่ 3 ไว้อย่างเต็มรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นทางการได้อย่างสะดวกสบาย และต่อเนื่องีแห่งอนาคตให้กับทิศทางตลอดทั้งเส้นทาง สามารถปรับระบบได้กว่าเดิมส่งกำลัง 2 ระบบรวมถึง 1.5T และ 2.0T โดยระบบส่งกำลัง 1.5T ใช้ ในส่วนของ 4B15L เกียร์เกียร์ 7DCT ได้รับข้อมูลการใช้ชีวิตประจำวัน
ส่วนระบบส่งกำลัง 2.0T ใช้เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง 4N20A ไดร์เวอร์เกียร์ 9DCT ระบบควบคุมสี่ล้อที่ควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะของ BorgWarner พร้อมระบบควบคุม 6 ส่วนประกอบและระบบการควบคุมหลายระบบโดย GWM HAVAL H6 มีพละกำลังที่จะช่วยประหยัด คุณสมบัติเพิ่มเติมในเทคโนโลยีมาพร้อมกับแพลตฟอร์มการอัพเกรดจาก Coffee Intelligence คือ “Coffee AI” ที่เพิ่มอินเทอร์เฟซสำหรับระบบสามารถสนทนากับระบบได้อย่างเป็นธรรมชาติและ Coffee Pilot ที่จะเข้าชมตามลักษณะการเดินทางของ ไดรฟ์ที่แตกต่างกันสร้างระบบต่างๆ ที่เป็นอัจฉริยะและประสบการณ์เหนือชั้นให้กับทุกคนในครอบครัว และ GWM WEY 80 ระบบควบคุมที่ตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มครอบครัวสามารถขับเคลื่อนทั้งคอนโซลและหรูหรา
       
GWMรู้สึกดีเพื่อส่งเสริมแนวคิดการออกแบบยานยนต์ส่วนใหญ่ที่ไร้ร่องรอย(Ecological Globalization) นวัตกรรมการส่งเสริมแบรนด์ในระดับโลกทั้งการวิจัยเพื่อการผลิตและด้านการขายในปัจจุบันเกรทวอท นักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ทราบฐานการผลิตยานยนต์แบบต่างๆ ในประเทศไทยและในการควบคุมโรงงานแบบ KD ในอินเดียเอลกวาดอร์ และประเทศอื่นๆ เพื่อการวิจัยและการผลิตสินค้าและนำผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคทั่วโลกที่ สามารถตอบสนองความต้องการและวิถีการขับขี่ของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคได้อย่างเหมาะสม การตั้งข้อสังเกตของผู้ขับขี่ในพื้นที่ท้องถิ่น แต่ประสิทธิภาพเกรย์ทวอลล์แล็ปท็อปสามารถแข่งขันกับราคาในตลาดนั้นได้ ความสามารถในการมองเห็นอาชีพให้กับผู้ชม

ยังเลือกหรือเปลี่ยนใจ! Volvo EX30

#Volvo EX30 ตรวจสอบรถยนต์ไฟฟ้าขนาด B-segmen หรือคู่แฝด Zeekr X ในรุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์รุ่นเริ่มต้นของค่ายที่เข้ามาขายในบ้านเราจะเพิ่มมาให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อยมาให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อย
  • และมอเตอร์เดี่ยวขยายช่วง 1,590,000.-

  • พิเศษ – นักศึกษาเดี่ยวขยายช่วง 1,790,000.-

  • ส่วนมอเตอร์คู่ระยะ 1,890,000.-

การเปลี่ยนแปลงตามหลักอากาศพลศาสตร์มีการออกแบบรถยนต์ที่ต่ำและการออกแบบด้านหน้าแบบไร้คู่แข่งโดยไม่มีค่า Cd. เพียง 0.28 บังโคลนซุ้มล้อที่กว้างและล้อที่มีทั้งหมดแล้วด้านล่างมีการออกแบบซี่โครงแบบ 3 แผ่น
ภายใน EX30 วัสดุดังกล่าวพิจารณา 30% ของประสิทธิภาพการรีไซเคิลพลาสติก และการทดสอบที่หน้าด้านบนสุดของระบบควบคุม พวงมาลัยสปอร์ตและโครงสร้างโลหะมีโครงสร้างที่เชื่อถือไว้เหนือเพื่อประโยชน์ของ… ในที่ของปกติและแจ้งเตือนคุณตรวจสอบ สอบอย่างละเอียดเช่นการหลับตามากกว่า 320 ลึก/นาที
ค้นหาตรงกลางนิ้วแบบสัมผัสขนาด 12.3 แสดงความเร็วในอื่นๆ เกียร์ของพื้นที่จัดเก็บก่อนพับ 318 รองรับเบาะหลังสามารถพับแยกแบบ 60:40
✳️ ที่มากับขนาดมิติ
4,233 มม. x 1,837 มม. x 1,555 มม. (ยาว x กว้าง x เรื่องนี้)
ฐานล้อ 2,649 มม.
ระยะต่ำสุดถึงพื้น 165 มม.
ช่วงล่างในทุกรุ่นย่อย
  • และแบบแมคเฟอร์สันสปริงสตรัท
  • ด้านหลังแบบมัลติลิงค์
  • ระบบเบรกทั้ง 4 ล้อเป็นแบบเบรก
  • ระบบ ABS,EBD,EBA
  • ล้อแม็กซ์
  • รุ่น Core ขนาด 18 นิ้วยาง 225/55 R18
  • รุ่น Ultra ทั้ง 2 รุ่นย่อย ขนาด 19 ยาง 245/45 R19
 EX30 มีมอเตอร์ไฟฟ้า มีให้เลือก 2 แบบ
 รุ่น Core – Single Motor Extended Range
  •  รุ่นมอเตอร์เดี่ยว Extended Range
  •  เริ่มต้นไฟฟ้า1 272 แรงบิด 343 นิวตันเมตร
  •  ล้อหลัง RWD
  •  ต่อเนื่อง 0-100 นาที/ชั่วโมง เพียง 5.3 วินาที
  •  สูงสุด 180 ชั่วโมง/ชั่วโมง
  •  การเข้าพักไกลสุด 480 เพียงมาตรฐาน NEDC
  •  กำลังสูงสุด 153kW
 รุ่น Ultra – ขยายช่วง
  •  รุ่นมอเตอร์เดี่ยว Extended Range
  •  เริ่มต้นไฟฟ้า1 272 แรงบิด 343 นิวตันเมตร
  •  ล้อหลัง RWD
  •  ต่อเนื่อง 0-100 นาที/ชั่วโมง เพียง 5.3 วินาที
  •  สูงสุด 180 ชั่วโมง/ชั่วโมง
  •  การเข้าพักไกลสุด 480 เพียงมาตรฐาน NEDC
  •  กำลังสูงสุด 153kW
รุ่น Ultra – จัดส่งมอเตอร์คู่
  • เบลไฟฟ้า2คน
  • พลังแห่งมีกำลังสูงสุด 115 กิโลวัตต์
  • คนที่สองให้กำลังสูงสุด 200 kW
  • 428 แรงบิดสูงสุด 543 นิวตันเมตร
  • คุณค่าที่เหมาะสมจาก 10 – 80% เวลาราว 25 นาที
  • แบตเตอรี่แบบ NMC ความจุความจุ 69 kWh
  • แบบใหม่ล่าสุด All Wheel Drive
  • อัตราเร่งจาก 0 – 100 นาที/ชั่วโมงเพียง 3.6 วินาที
  • ช่วงสูงสุด 180 กม./ชม
  • ไกลสุด 460 รองรับมาตรฐาน NEDC
สีตัวรถมีให้เลือก 5 สี
มอส เหลือง คันในรูป
ไอ่สีเทา
นิลดำ
เรา
ฟ้าฟ้า
หลังคาทูโทนสีดำ Onyx
ส่วนประกอบคือต้องมีแบตเตอรี่สามต้องทำแบบตรวจสอบนั้นรวม 393V ขนาด 69kWh และน้ำหนักตัวแบตเพียง 390 กิโลกรัม. ในรุ่นก่อนหน้าหนัก 450 กก. ด้วยปริมาณพลังงานที่เท่าเดิมตัวเองแบตเตอรี่เองก็มีการพัฒนาในรุ่นนี้?
Volvo EX30 มีจุดเด่นที่มีความสำคัญที่ต่ำที่สุด Volvo เคยมาพรมปูพื้นยังรวมถึงสีน้ำตาลอวนจับปลาที่ทิ้งพื้นที่ตอนนี้คู่แข่งในราคานี้จำนวนมากพอควรและหลากหลายรุ่นเท่านั้นเท่านั้นมีมาก่อนที่ เพื่อนเหมือนเดิมครับยังคงเลือกหรือเปลี่ยนใจ!

HANUMAN 3 สปอร์ตไฟฟ้า สัญชาติไทยเกิดขึ้นแล้ว??

SRA ค่ายรถในตำนานไทยเปิดตัวรถต้นแบบไฟฟ้า “ สปอร์ตอาร์เอหนุมาน3 Sport Vintage EV ครั้งแรกในโลกในช่วงที่เจ้าพีระสานฝันเส้นทางมอเตอร์สปอร์ตจากสนามแข่งสู่ยนตรกรรมไฟฟ้ารับกระแสยานยนต์ ข่าวล่าสุดนักสะสมทั่วโลกตั้งข้อสังเกตล่วงหน้ารุ่นลิมิเต็ดครบรอบ110 บุคคลพีระ 

พ.ท.ม.ร.ว.พีรานุพงศ์ ภาณุพันธ์บริษัทบริหารบริษัท สยามเรซซิ่งออโตโมบิลส์ จำกัด ( Siam Racing Automobiles Co.,Ltd : SRA ) ผู้มีอำนาจบุกเบิกเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า บริษัท ภูมิใจนำ เสนอยนตรกรรมต้นแบบในไทย “เอสอาร์เอหนุมาน3” ( SRA หนุมาน 3 ) สู่สายตาที่คุ้นเคยในเรื่องงานบางกอกอเดลเรย์โชว์ 2024 คราวสำคัญนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญ การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์ของคนไทยในปัจจุบันนี้โดยคำนึงถึงมรดกทางมอเตอร์สปอร์ตและวิศวกรรมอันล้ำสมัย

ในฐานะ SRA หนุมาน 3 ถือกำเนิดจากชื่อเสียงของผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์มากประสบการณ์โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างคุณของพระวรวงศ์เธอเจ้าองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดชหรือบุคคลพีระ และทีมวิศวกรยานยนต์ชั้นนำผู้มีอำนาจที่โดดเด่นจากบริษัท ชื่อเสียงระดับโลกในเรื่อง Ferrari, Tesla, Toyota และ Jaguar Land Rover ความร่วมมืออันทรงประสิทธิภาพนี้มักจะพบกับประโยชน์ของวิศวกรผู้สร้างสรรค์ Honda NSX ผลลัพธ์เกิดเป็นรถยนต์ที่คำนึงถึงประเพณีอันทรงคุณค่าไม่ค่อยมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างใดบ้าง ลงตัว

ในส่วนของนายภาคินแสงวิจิตรส่วนประกอบและส่วนประกอบของระบบควบคุม ตรวจสอบ SRA หนุมาน 3 สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการไฟฟ้าด้วยระบบปฏิบัติการอันน่าทึ่งโดยมาพร้อมกับขุมพลัง 577 แรงบิดของเฮลิคอปเตอร์ 525 นิวตันทาวเวอร์เมตร 60 กิโลไบต์เป็นตัวอย่างที่วิ่งต่อได้ตามปกติ: 400 และเป็นส่วนตัวรถ 800 กิโล

เสียงร้อง SRA Hanuman 3 คือส่วนไฟฟ้าติดตาม 430 กิโลวัตต์ควบคุมเป็นผลงานการพัฒนาอย่างใดอย่างหนึ่งร่วมกับบริษัทผู้นำระบบควบคุมอย่าง Acme Inter, Hoganas และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ SRA ยังคงผลิตแบตเตอรี่โดย Oska Holding และความน่าเชื่อถือที่เหนือกว่า SRA โดยทั่วไปการควบคุมการควบคุมจะแสดงได้โดยตรง Nexzter สำหรับระบบเบรก และ Lenso สำหรับล้อแม็กซ์ประสบการณ์การขับขี่ที่ไดร์เวอร์ด้วยความแข็งแกร่งและทรงพลัง

อีกครั้งในโอกาสครบรอบ 110 ปี คุณจะมีเจ้าพีระ SRA จะผลิต SRA หนุมาน 3 รุ่นพิเศษจำนวนจำกัดเพียง 110 คันโดยเริ่มต้นที่ราคา 6 เดือน (ประมาณ 131,000 เดือนหรือ 155,000 ยูโร) ความสนใจสามารถทดลองขับได้ภายในระยะเวลา 2 ปีและรับรถได้ภายใน 1-2 ปีต่อเนื่อง เตรียมพร้อมนี้เพื่อยืนยันตัวตนพิเศษที่มาพร้อมความหรูหรา SRA ได้ไม่นาน Naraya แบรนด์กระเป๋าที่มีชื่อเสียงของไทยออกแบบกระเป๋าเดินทางพิเศษสำหรับลูกค้า SRA ไดรฟ์ประสบการณ์ระดับสูง รถยนต์รุ่นนี้

SRA หนุมาน 3 คือที่สุดของความเป็นเลิศด้านยานยนต์ ค้นหาเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อกำหนดนิยามใหม่แห่งนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า ไดรฟ์ของระบบขับเคลื่อนสามารถสัมผัสอนาคตของรถยนต์สปอร์ตไฟฟ้าได้ที่ห้องครัว SRA ภายในงานบางกอกเพิ่มเติมในส่วนของโชว์รูม 2024 ณ วิคตอเรีย 4 อิมแพ็คชาเลนเจอร์เมืองทองธานี

 

ติดตามข่าวสารเว็บไซต์http://www.SRAvehicles.com

รู้มั้ย BMW พัฒนา iX5 Hydrogen จับมือโตโยต้าลุย FCEV ในยุโรป ขยายทางเลือกด้านพลังงานสะอาด

BMW จับมือ Toyota Motor Corporation พร้อมยังใช้เทคโนโลยีและความร่วมมือทางเทคนิคซึ่งเคยเกิดขึ้นที่โรงงานนำร่องภายในศูนย์วิจัยและพัฒนามิวนิกอยู่ก่อนแล้ว การเข้ามาพัฒนา FCEV ของ BMW คาดว่าจะเพิ่มความสนใจในยุโรป และขยายทางเลือกด้านพลังงานสะอาดในอนาคต

BMW ร่วมมือกับ Toyota Motor Corporation พร้อมด้วยความสามารถและความสามารถในการควบคุมซึ่งเคยเกิดขึ้นที่โรงงานนำภายในศูนย์การวิจัยวิจัยมิวนิกอยู่ก่อนแล้วการเข้ามาพัฒนา FCEV ของ BMW สามารถตรวจสอบเพิ่มได้ในที่นี้และขยาย เลือกด้านพลังงานสะอาดแห่งปี

BMW เลือกใช้ iX5 มาติดตั้งถังไฮโดรเจนขนาด 700bar  2 ถัง มีความจุ 6 กก. พละกำลังสูงสุด 295kW หรือ 401 แรงม้า และที่พิเศษสามารถทำอัตราเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาน้อยกว่า 6 วินาที ระยะทางเติมครั้งเดียวคือ 504 กม. มาตราฐาน WLTP

ใช้ถังไฮโดรเจนของ Toyota ทั้ง 2 ถัง เมื่อพิจารณาจะเห็นว่าวิ่งได้ระยะทางที่สั้นกว่าเมื่อเทียบกับ Toyota MIRAI ที่วิ่งได้ถึง 850 กม. ที่ใน MIRAI เองมีถังไฮโดรเจนถึง 3 ถัง นั่นเอง

ทางบีเอ็มดับเบิลยูมีการทดลองขับบนถนนจริงของ iX5 Hydrogen แม้ตัวรถจะดูมีน้ำหนักกว่า 2 ตัน แต่ตัวเลขน้ำหนักอย่างเป็นทางการบีเอ็มดับเบิลยูไม่ได้แจ้งออกมา แต่สิ่งที่ทำให้ BMW มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็คือการควบคุมตัวรถ ซึ่งมีอัตราเร่งปานกลางและการตอบสนองของพวงมาลัยที่ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม

ก่อนอื่นเลย การเร่งความเร็วของทางลาดนั้นทำได้น่าทึ่ง การตอบสนองของพวงมาลัยมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพทางตรงสูง ดังนั้นผู้ขับขี่เพียงแต่วางมือบนพวงมาลัยโดยไม่รู้สึกกังวลจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีสมรรถนะทางตรงที่ยอดเยี่ยมที่ความเร็วสูง และคุณเพียงแตะพวงมาลัยเบาๆ เพื่อรับมือกับพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบแน่นอน ไดนามิกของการขับขี่ยังมั่นใจ

ในเนื้อข่าวทดสอบจะเห็นว่าการขับขี่ทั้งในเมือง และนอกเมือง ทำได้ประทับใจเสียงยังคงสไตล์รถยนต์ไฟฟ้า ที่เงียบตามแบบฉบับรถยุโรปหรูของ BMW อัตราเร่งให้ความรู้สึกเหมือนไฟฟ้าที่น่าพอใจ เสียงการทำงานของแผงเซลล์เชื้อเพลิงแทบจะเป็นศูนย์ และเสียงเดียวที่คุณได้ยินคือเสียงที่เกิดจากไฟฟ้าและเสียงจากถนน พร้อมยางที่ให้มาขนาดใหญ่ 315/30R22

ในปัจจุบัน BMW iX5 Hydogen ถูกตอนความเร็วที่ 185 กม./ชม. เท่านั้นแต่ ความน่าสนใจคือสามารถเร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็วแม้จะเป็นรถ SUV ก็ตาม โดยทาง บีเอ็มดับเบิลยู จะทำการการทดสอบภายใต้สภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยจากหลายประเทศทั่วโลกเพื่อปรับปรุงรถ FCEV ในอนาคตต่อไปเพื่อสังคมการเป็นกลางทางคาร์บอนเหมือนที่โตโยต้าเองกำลังทำอยู่…

รถ EV จีน ต่างเทลดราคากระหน่ำ หรือถึงจุดอิ่มตัว

ตามที่นำเสนอไปก่อนหน้าที่กระแสรถยนต์ไฟฟ้าลดกระหน่ำที่จีนมาดู #ORA กันบ้าง น่าจะใกล้ตัวสุด มาถึง ORA Lightning Cat คนซื้อจะได้รับส่วนลด ถึง 30,000 หยวน หรือ 150,000 บาท + สิทธิพิเศษอื่นๆ มูลค่า 7,000 หยวน คูณ 5 บาทไปนะครับ ทำให้ราคา Lightning Cat รุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ 178,800 หยวน 894,000 บาท เท่านั้น?????
ด้วยราคานี้สเปกที่ได้คือมอเตอร์เดี่ยว
มีแรงม้า 150 กิโลวัตต์ หรือ 201 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร
ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
ให้แบตเตอรี่ 64.31 kWh
พร้อมวิ่งได้ระยะทางถึง 555 กิโลเมตร มาตราฐาน CLTC
อีกรุ่นที่อยากรู้ว่าลดลงมาเท่าไร ORA Good Cat ลดลง 22,000 หยวน หรือ 110,000 บาท ส่วน Good Cat GT ลดลง 20,000 หรือ 100,000 บาท ส่วนราคา Ballet Cat ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเพราะยังคงได้รับความนิยมอยู่!
จะเห็นได้ว่าราคารถยนต์ไฟฟ้ากำลังดิ่งลง คงต้องไปลุ้นกันในช่วงเดือนหน้าที่จะมีงาน ปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ ว่าจะมีอะไรที่จะพลิกให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าคงที่บ้าง!
ส่วนค่ายรถขายดีที่บ้านเราอย่าง BYD ยังนำน้องเล็ก BYD Seagull Honor จัดราคาต่ำสุดเพียง 69,800 หยวน หรือ 349,000 บาท เท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้าเปิดราคา 73.800 หยวน 369,000 บาท ก็มาบ้านเราก็ลุ้นกันว่าจะถูกหรือแพงกว่านี้!!!!
ส่วนแบรนด์ เซเรส แลนเดียน E5 รุ่นพื้นฐานใหม่ลดเหลือราคา 99.800 หยวน ทั้งที่ก่อนหน้าเปิดราคา 139.900 หยวน
ฉางอัน ฉีหยวน A07 รุ่นเริ่มต้นที่ลดเหลือ 135.900 หยวน ทั้งที่ก่อนหน้าจำหน่าย ที่ 155.900 หยวนDeepal SL03 ซีรีย์ใหม่ ที่ลดราคารุ่นเริ่มต้น 129.900 หยวน จากที่ก่อนหน้าอยู่ที่ 135.900 หยวน
ทำให้ตอนนี้บอกเลยราคารถไฟฟ้าป่วนเพราะแต่ละค่ายลด 3,000 – 40,000 หยวนเลยทีเดียว ก็ลุ้นกันว่าศึกราคา EV ไทยจะลงเอ่ยแบบไหน? ถ้าไม่ลดเหมือนจีน? คิดเห็นประการใดก็เม้นมาเล่าได้น้านนน….

Mitsubishi Triton ที่ผลิตและส่งออกจากประเทศไทยคว้ารางวัล


ถือเป็นปีของมิตซูบิชิที่เนื้อกระบะหนึ่งตันที่จะครองใจผู้บริโภคชาวไทยได้อีกครั้งใน Mitsubishi Triton และ Mitsubishi Exforce ไดรฟ์ iF Design Award ประจำปี 2024 คุณสมบัติการออกแบบผลิตภัณฑ์ฝั่งติดตามรางวัลกา รีรันที่เผยแพร่ทั่วโลกในไทยอีกครั้ง!!!

โดยรางวัล iF Design Award ส่วนโวตจากภายนอกของการออกแบบถึง 132 ผู้ควบคุมดูแลออกแบบตรวจสอบ 11,000 ชิ้นที่ส่งมาจากมังสวิรัติสุดแท้ปีเดียวคว้าถึง 2 รางวัล 2 รุ่น มิตซูบิชิไทรทันมีแนวคิดการออกแบบ “BEAST MODE” อย่างเป็นทางการและกำลังประสบความสำเร็จของรถกระบะ ดีไซน์ด้านหน้าเน้นด้วยรูปทรงอันทรงพลังพร้อมกระจังหน้าและ บังสามมิตินี้มีหลายรูปแบบที่สืบค้นค้นค้นค้น จากเหตุผลที่เหมือนกันก็รับประกันพื้นที่ที่ขยายขนาดใหญ่…

 

 

อุปกรณ์แจ้งเตือนช่วยให้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของรถนั้นได้ แป้นหมุนมีระดับที่ดีที่สุดในขณะที่สวมถุงมือได้ พวงมาลัยโดยเน้นที่ความเข้มข้นในยึดเกาะและ ควบคุม

ราคาอย่างเป็นทางการ Mitsubishi TRITON Athlete 2.4 Bi-TURBO

 

    • ATHLETE 2.4 Bi-Turbo 4WD AT 204 ปกติ 1,298,000 บาท
    • ATHLETE 2.4 Bi-Turbo 2WD AT 204 ปกติ 1,125,000 บาท

 



สายลุยรุ่นล่าสุด พร้อมขุมพลัง 510 แรงม้า ถือเป็นรุ่นเรือธงที่จะมาไทยหรือไม่???

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวรถออฟโรดรุ่นเรือธงสำหรับสายลุยอย่างเป็นทางการในชื่อ ‘GWM TANK 700 Hi4-T’ ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน สร้างปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ท่ามกลางกระแสตอบรับอย่างล้นหลามของผู้ที่หลงไหลในรถยนต์จากทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยีออฟโรดสุดล้ำสมัยระดับโลก สร้างมาตรฐานใหม่ในกลุ่มรถออฟโรดระดับพรีเมียมรุ่นเรือธงในประเทศจีน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยสเปคเด่นของ GWM TANK 700 Hi4-T รถออฟโรดรุ่นล่าสุดสู่สายตาชาวโลก ประเดิมด้วยความทรงพลังของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 3.0T Hi4-T ซึ่งเป็นการออกแบบโครงสร้างเครื่องยนต์เพียงหนึ่งเดียวในประเทศจีนที่รองรับพละกำลังของรถยนต์ไฮบริดขนาดใหญ่ แสดงให้เห็นถึงการคิดค้นและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อนำเสนอประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจ ยิ่งไปกว่านั้น GWM TANK 700 Hi4-T มาพร้อมกับความโดดเด่นของดีไซน์ภายนอกและกลไกภายในที่ผสมผสานเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ด้วยเทคโนโลยีไฮบริดขั้นสูงเพื่อสร้าง “ความพึงพอใจของผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง” สร้างความโดดเด่นและแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ไฮบริดอื่น ๆ ในระดับโลก ด้วยโหมดการขับขี่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกเส้นทางมากถึง 12 โหมด ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ขับขี่ในทุกเส้นทางและทุกสถานการณ์ สร้างความมั่นใจในทุกการผจญภัยแบบออฟโรดที่เหนือกว่าในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่งผลให้ GWM TANK 700 Hi4-T ก้าวเข้าสู่การเป็นรถออฟโรดรุ่นเรือธงด้วยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีที่เหนือกว่าในทุก ๆ ด้าน

ภายใน GWM TANK 700Hi4-T ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เป็นรถออฟโรดสุดหรูขั้นสุด โดดเด่นด้วยการผสานที่สมบูรณ์แบบระหว่างสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรดและความสะดวกสบาย มาพร้อมกับเบาะนั่ง Light Cloud มุมกว้างพิเศษ สร้างความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ขับขี่ราวกับนั่งบนปุยเมฆ โดดเด่นเหนือกว่าใครด้วยระบบเสียงจาก Harman Kardon ที่มาพร้อมลำโพง 16 ตัวที่สร้างความละเอียดเสียงระดับ Hi-Fi (High Fidelity) สู่การเป็นสุดยอดแห่งวงการออฟโรดระดับพรีเมียม พร้อมการันตีประสบการณ์การขับขี่อย่างเหนือระดับผ่านทุกรายละเอียดที่สร้างสรรค์ไว้อย่างประณีตในทุกแง่มุม

ในงานเปิดตัว ณ กรุงปักกิ่ง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้แสดงศักยภาพในหลากหลายมิติของ GWM TANK 700 Hi4-T ได้อย่างครอบคลุม แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะที่ทรงพลังและเชื่อถือได้ โดยในช่วงไลฟ์สตรีมมิ่ง ผู้ชมจากทั่วทุกมุมโลกได้เห็นถึงการควบคุมที่แม่นยำ อัตราเร่งอันน่าทึ่ง และความคล่องตัวของรถยนต์พรีเมียมออฟโรดสายลุยที่พร้อมขึ้นแท่นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ งานเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำว่า GWM TANK คือผู้นำในการตลาดรถออฟโรดพรีเมียมในประเทศจีน ด้วยบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีและความเหนือระดับของ เกรท วอลล์ มอเตอร์  ทั้งในวันนี้และในอนาคต เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยึดมั่นในการสร้างคุณค่าของแบรนด์ผ่านผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่มีคุณภาพ มุ่งสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยานยนต์คุณภาพสูง

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยึดมั่นกลยุทธ์ในการเพิ่มขีดความสามารถของยานยนต์ด้วยเทคโนโลยีมาโดยตลอด รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์อย่างไม่หยุดยั้ง ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีขั้นสูงที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพแก่ผู้บริโภคทั่วโลก การเปิดตัว GWM TANK 700 Hi4-T สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านรถออฟโรดได้อย่างชัดเจน ตอกย้ำการก้าวสู่การเป็นผู้นำในการกำหนดมาตรฐานทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม

ACCORD e:HEV 2024 ใหม่ ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชนของ ASEAN NCAP

All-new Honda ACCORD e:HEV 2024 ใหม่ เปิดตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 และนับเป็นการคว้ามาตรฐานความปลอดภัยยอดเยี่ยมระดับ ดาวไว้ได้อย่างต่อเนื่อง 2 เจเนอเรชัน นับตั้งแต่เจเนอเรชันที่ 10 ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวเมื่อปี พ.ศ. 2562 สำหรับ ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่นที่นำมาใช้ในการทดสอบครั้งนี้ ได้แก่ รุ่น e:HEV RS ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ด้วยคะแนนรวม 87.44 เต็ม 100 คะแนน โดยได้รับคะแนนในแต่ละด้าน ทั้ง 4 ด้าน จากคะแนนเต็ม 120 คะแนน ซึ่งหลักเกณฑ์การประเมินประกอบด้วย การทดสอบการชนจากด้านหน้า การชนจากด้านข้าง และการประเมินเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย โดยได้รับคะแนนในแต่ละส่วน ดังนี้

  • การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection: AOP) 30.90/32 คะแนน
  • การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็ก (Child Occupant Protection: COP) 45.25/51 คะแนน
  • เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย (Safety Assist Technologies: SATs) 19.50/21 คะแนน
  • ความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ (Motorcyclist Safety: MS) 10/16 คะแนน

ทั้งนี้ ฮอนด้า จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนายนตรกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบยนตรกรรมที่มีคุณภาพ ครบครันด้วยเทคโนโลยีทั้งด้านการขับเคลื่อนและความปลอดภัย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุและลดการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์และรถยนต์ฮอนด้าทั่วโลกให้เป็นศูนย์ (Zero Traffic Collision Fatalities) ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ภายในปี พ.ศ. 2593 (Honda Target 2050)

ยนตรกรรมของฮอนด้าที่ผ่านการทดสอบการชนของ ASEAN NCAP:

รุ่น รุ่นปี ผลการทดสอบ
แอคคอร์ด 2023 ระดับ 5 ดาว
2019 ระดับ 5 ดาว
ซีอาร์วี 2023 ระดับ 5 ดาว
2017
2013 ระดับ 5 ดาว*
ดับเบิลยูอาร์วี 2023 ระดับ 5 ดาว
เอชอาร์วี 2022 ระดับ 5 ดาว
2015 ระดับ 5 ดาว**
บีอาร์-วี 2022 ระดับ 5 ดาว
2015 ระดับ 5 ดาว*
ซีวิค 2021 ระดับ 5 ดาว
2016 ระดับ 5 ดาว**
2013 ระดับ 5 ดาว*
ซิตี้ 2020 (ซีดานและแฮทช์แบ็ก) ระดับ 5 ดาว
2014 ระดับ 5 ดาว*
2012 ระดับ 5 ดาว*
บริโอ้ และ บริโอ้ อเมซ 2016 ระดับ 4 ดาว
แจ๊ซ 2014 ระดับ 5 ดาว*

* ในรุ่นที่ไม่ได้ติดตั้งระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist: VSA) และระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า (Seatbelt Reminder: SBR) ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 4 ดาว
** สำหรับฮอนด้า ซีวิค (รุ่นปี 2016) และเอชอาร์-วี (รุ่นปี 2015) ในรุ่นที่ไม่ได้ติดตั้งระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า (Seatbelt Reminder: SBR) ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 4 ดาว

 

All-new Honda ACCORD e:HEV 2024 ใหม่ ได้รับการพัฒนาและยกระดับเพื่อมอบคุณค่าใหม่อีกขั้น ทั้งในด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย ควบคู่ไปกับประสบการณ์ขับขี่ที่ไร้กังวล เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะโดดเด่นจากการผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า มอบการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงสุดถึง25 กม./ลิตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีการขับขี่และเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING เพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง พร้อมด้วยหลากหลายเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยอื่น ๆที่ได้รับการติดตั้งอย่างครบครัน อาทิ

  • เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ผสานการทำงานของกล้องมุมกว้างด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลัก ดังนี้
    • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
    • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
    • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
    • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) และระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าหรือรถที่กำลังสวนทางมา
    • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

accord hev

  • เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆอาทิ
    • ถุงลม 8 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง และถุงลมหัวเข่าคู่หน้า
    • เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด
    • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS)
    • ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (ACL)
    • ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System: MMS)
    • ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
    • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
    • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง (Front and Rear Passenger Seat Belt Reminder)